การเข้าร่วมโครงการ Au Pair ในยุโรปโดยการหาโฮสต์เองสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการผ่านเอเยนซีได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่คุณควรพิจารณาเพื่อเตรียมการเงินของคุณให้พร้อมสำหรับการเป็น Au Pair นี่คือตัวอย่างค่าใช้จ่ายที่คุณอาจต้องเผชิญ:
1. ค่าวีซ่าและเอกสาร
- ค่าวีซ่า: ขึ้นอยู่กับประเทศที่คุณจะไป ค่าธรรมเนียมวีซ่าอาจแตกต่างกัน โดยอาจอยู่ในช่วง 60-150 ยูโร
- ค่าถ่ายรูปเพื่อขอสติ๊กเกอร์วีซ่า : 200-350 บาท ค่าซองจดหมายเพื่อส่งหนังสือเดินทางกล้บไปที่บ้าน ประมาณ 50 บาท
- ค่าจัดการเอกสาร: อาจรวมถึงค่าใช้จ่ายในการแปลเอกสารและการรับรองเอกสาร ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าแปลใบเกิด 300 บาท ค่าขอรับรองใบเกิดจากกองสัญชาติและนิติกรณ์(กรมการกงสุล) 400 บาท (ต่อ 1 ชุด) ค่าขอรับรองใบเกิดจากสถานทูต ประมาณ 1000- 2,000 บาท (ต่อเอกสาร 1 ชุด) และค่าของจดหมายสำหรับส่งเอกสารไปที่บ้าน ประมาณ 50-80 บาท
- ค่าธรรมเนียมสมัครโครงการออแพร์
2. ค่าประกันสุขภาพ
- ขึ้นอยู่กับกฎหมายของประเทศที่คุณจะไป คุณอาจต้องมีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมระยะเวลาที่คุณเป็น Au Pair ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายราว 30-50 ยูโรต่อเดือน
- อย่าลืมว่ามีคาตรวจสุขภาพก่อนเดินทางด้วย โรงพยาบาลเอกชนประมาณ 3,500 บาท ได้รับผลตรวจภายใน 2-3ชั่วโมง หรือที่โรงพยาบาลรัฐ ราคาอยู่ที่ประมาณ 800-1,500 บาท และมารับผลตรวจในวันกัดไป แต่จะช่วยประหยัดมากขึ้น
3. ค่าเดินทาง
- ตั๋วเครื่องบิน: ค่าใช้จ่ายหลักสำหรับการเดินทางไปยังประเทศที่คุณจะเป็น Au Pair ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะทางและช่วงเวลาที่ซื้อตั๋ว ประมาณ 25000-35000 บาท
- ค่าเดินทางทั่วไป : ตรวจสุขภาพ แปลเอกสาร ถ่ายรูปทำวีซ่า ยื่นขอวีซ่า ธนาคาร ซื้อของใช้ส่วนตัว และอื่น ๆ ประมาณ 1000-2,000 บาท (ขี้นอยู่กับระยะทาง)
4. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
- แม้ว่าคุณจะได้รับค่าเลี้ยงดูจากครอบครัวเจ้าบ้าน แต่คุณอาจต้องมีเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัวในช่วงแรกหรือสำหรับการท่องเที่ยวในเวลาว่าง ในเดือนแรกควรสำรองเงินใช้จ่ายส่วนตัวประมาณ 10000-15000 บาท
- ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดก่อนเดินทาง : ซื้อของใช้ส่วนตัว เครื่องนุ่งห่ม อาหาร ขนมและยาสามัญประจำบ้านที่จำเป็น ประมาณ 3000-5000 บาท รวมถึงควรคำนึงถึงการซื้อฃองฝากสำหรับโฮสต์ ประมาณ 1,000-2,000 บาท
5. ค่าภาษา
- ค่าเรียนภาษา: หากคุณต้องการเรียนภาษาเพื่อเพิ่มทักษะของคุณ อาจมีค่าใช้จ่ายสำหรับคอร์สภาษาหรือชั้นเรียนเสริม
รายการค่าใช้จ่ายข้างตันยังไม่รวมเอกสารเพิ่มเติมที่ตัองแปลและรับรอง เช่น ใบรับรองการเปลี่ยนชื่อ ใบรับรองสถานภาพโสด ใบรับรองประวัติอาชญากรรม ฯลฯ โดยรวมแล้วสำหรับออแพร์ยุโรป ที่หาโฮสต์เองควรมีเงินสำรองค่าใช้จ่ายไว้ประมาณ 50,000 – 70,000 บาท เพราะว่าในช่วงแรกที่เราไปถึงอาจจะยังไม่ได้รับเงินเดือน จึงตัองมีเงินสำรองค่าใช้จ่ายส่วนตัวไปก่อน เซ่น ค่าซื้อของใช้ที่ไม่ได้เตรียมไปจากไทย เช่น ค่าซื้อเสือผ้าตามฤดูกาล ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เนต ค่าเดินทาง ฯลฯ
การวางแผนการเงินอย่างรอบคอบก่อนเข้าร่วมโครงการ Au Pair จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับคาใช้จ่ายเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ประสบการณ์ของคุณในฐานะ Au Pair เป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหาทางการเงินที่ไม่คาดคิด นอกจากนี้ การมีการเตรียมพร้อมทางการเงินยังเป็นส่วนสำคัญของการทำให้คุณมีความสุขและสบายใจในระหว่างที่คุณอยู่ในต่างประเทศด้วย
นี่คือคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้:
- วางแผนล่วงหน้า: เริ่มวางแผนและออมเงินสำหรับโครงการ Au Pair ล่วงหน้า เพื่อให้คุณมีเวลาเพียงพอในการเตรียมการและจัดการกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น
- ตั้งงบประมาณ: ทำการตั้งงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้งค่าเดินทาง ค่าวีซ่า ค่าประกันสุขภาพ และค่าใช้จ่ายส่วนตัว เพื่อให้คุณสามารถควบคุมการใช้จ่ายของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ศึกษาเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากครอบครัวเจ้าบ้าน เช่น ค่าเลี้ยงดู การให้ที่พักอาศัย และการจัดหาอาหาร เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนตัว
- พิจารณาค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม: อย่าลืมคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ในเวลาว่าง หรือค่าธรรมเนียมสำหรับกิจกรรมหรือคอร์สเรียนภาษา
การสำรองค่าใช้จ่ายอาจจะไม่ใช่เฉพาะตอนที่เราเป็นออแพร์เท่านั้น แต่ตัองวางแผนให้ครอบคลุมถึงตอนที่จบโครงการด้วย เพราะว่าออแพร์ได้รับเงินเดือนไม่สูงมาก 300-400 ยูโร (ประมาณ 11,000-16000 บาท) อาจไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับค่าครองชีพที่สูงในยุโรป อย่างไรก็ตามก็น่าจะเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนหากบริหารจัดการดี เพราะผู้ที่เป็นออแพร์จะได้สิทธิประโยชน์ที่พักและมื้ออาหารอยู่แล้ว
เมื่อจบโครงการแล้ว ด้องมีเงินสำรองตอนกลับประเทศไทย ดังนั้นควรวางแผนเรื่องเงินให้ดีก่อนตัดสินใจมาเป็นออแพร์ที่ยุโรป