มหาวิทยาลัย IVY League (ไอวี่ ลีก) คืออะไร?

Group of 8 มหาวิทยาลัย IVY League คืออะไร มีที่ไหนบ้าง

ถ้าคุณเคยดูหนังเกี่ยวกับชีวิตนักศึกษาในอเมริกา ส่วนใหญ่แล้วก็จะถ่ายทำ หรือพูดถึงสถาบัน IVY League ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียง ที่มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ อย่างในเรื่อง Animal House, Legally Blonde, A Beautiful Mind, Good Will Hunting – ถ้ามีเวลาก็ไปหาดูได้ แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จักว่าสถาบัน IVY League คืออะไร

มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่มักถูกจัดกลุ่มภายใต้ชื่อ ‘Ivy League’  หรือบางครั้งเรียก Group of 8 และประวัติศาสตร์ของพวกเขาค่อนข้างน่าสนใจและมีความสำคัญต่อการศึกษาในอเมริกา

ทำไมมหาวิทยาลัยใน Ivy League น่าสนใจ?

เมื่อเราเริ่มต้นการค้นหาหลักสูตรเรียนต่อปริญยาตรีและปริญญาโทในอเมริกา มหาวิทยาลัยเหล่านี้น่าจะเป็นอันดับต้นๆ ที่ดึงดูดความสนใจ ด้วยเหตุผลหลายประการ

• สถาบันเหล่านี้ทุ่มเทใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ในการดึงดูดนักเรียนหัวกะทิ ที่เก่ง ทำงานหนักและกระตือรือร้นจากทั่วทุกมุมโลก คัดเลือกตามโปรไฟล์ และประสบการณ์ของผู้สมัคร มีเกณฑ์คัดเลือกที่เข้มงวด เช่น แผนในอาชีพ สถานะการเงินหรือเป้าหมายด้านการศึกษา แน่นอนผู้สมัครต้องเข้าใจหลักสูตรและสถาบันเหล่านี้เป็นอย่างดี(จริงๆ) ถ้าหากคิดจะสมัครใน Ivy league
• สถาบัน IVY League เป็นที่ยอมรับ และเป็นการปูทางไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ค่อนข้างแน่นอน ไม่ว่าจะด้านกฎหมาย การแพทย์ ไปจนถึงวิศวกรรมศาสตร์(ไฟฟ้า)หรือบริหารธุรกิจในสาขาเหล่านี้จะเป็นจุดเด่นของมหาวิทยาลัย Ivy League การได้รับปริญญาจากโรงเรียนเหล่านี้จะเปิดประตูให้คุณมากขึ้นในอนาคต
• อย่างไรก็ตาม สถาบัน IVY League มีแนวโน้มที่จะอยู่ในโรงเรียนที่มีราคาค่าเล่าเรียนสูงที่สุดในสหรัฐฯโดยมีอัตราค่าเล่าเรียนอยู่ระหว่าง 55,000 ถึง 60,000 เหรียญต่อปี ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเหล่านี้มักจะให้ทุนการศึกษา แก่ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในแต่ละปีไม่น้อย เช่นกัน

4 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนสมัครเข้าเรียนในสถาบัน/ มหาวิทยาลัย IVY League

• การเข้าเรียนในโรงเรียนเหล่านี้มีการแข่งขันสูงมากๆ ๆ ๆ ๆ เพื่อให้ได้รับการยอมรับในมหาวิทยาลัยเหล่านี้นักเรียนต้องบรรลุมาตรฐานที่สูงกว่ามหาวิทยาลัยของรัฐโดยเฉลี่ย
• ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมการศึกษายอดเยี่ยมของ Ivy League คุณควรตรวจสอบข้อกำหนดที่โรงเรียนเหล่านี้กำหนด จะต้องการรวมถึงคะแนนทดสอบ (SAT, GRE, LSAT), เกรดเฉลี่ย, เอกสารเรียนต่อที่ดี, จดหมายแนะนำ, กิจกรรมนอกหลักสูตรและความสำเร็จทางวิชาการอื่น ๆ
• หากเป้าหมายของคุณคือการทำธุรกิจ บริษัทขนาดใหญ่ รวมถึงการทำงานในภาครัฐ หรือการมีอาชีพในสายงานนักวิจัยและการคิดค้นนวัตกรรม การสมัครของคุณจะถูกจับตามองเป็นอย่างมาก บางทีอาจเป็นข้อได้เปรียบ เพราะโรงเรียนเหล่านี้ตั้งแต่อดีต ถือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์นักศึกษาที่ประสบความสำเร็จในวงการอาชีพที่กล่าวมา โดยเฉพาะบุคคลที่มีชื่อเสียงของโลกมากมาย
• อย่างไรก็ตามคุณควรคำนึงด้วยว่ายังมีมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกามีอีกหลายพันแห่งที่มีการจัดอันดับสูงและค่าเล่าเรียนที่ต่ำกว่า จริงอยู่ที่มหาวิทยาลัย IVY League ไอวี่ลีก เป็นสถาบันที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกในเรื่องความเป็นความเป็นเลิศ แต่คุณควรจะมองหาสถาบันแบบที่สมบูรณ์แบบที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากกว่า
• IVY League หรือ Group of 8 คือกลุ่มมหาวิทยาลัยเก่าแก่ 8 แห่งในสหรัฐอเมริกา อย่าสับสนกับมหาวิทยาลัยยุโรป (Oxford, Cambridge etc.) 

 

มหาวิทยาลัย Ivy League มีที่ไหนบ้าง?

ก่อนจะมาเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดัง IVY League เป็นชื่อการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยระดับชาติ โดยมีมหาวิทยาลัยเข้าร่วม 8 แห่ง ได้แก่

• มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด(แมชาชูเสต) – Harvard University (Massachusetts)
• มหาวิทยาลัยเยล(คอนเนคติคัต) – Yale University (Connecticut)
• มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (รัฐนิวเจอร์ซีย์) – Princeton University (New Jersey)
• มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (นิวยอร์ก) – Columbia University (New York)
• มหาวิทยาลัยบราวน์ (โรด ไอส์แลนด์) – Brown University (Rhode Island)
• วิทยาลัยดาร์ตมั ธ (นิวแฮมป์เชียร์) – Dartmouth College (New Hampshire)
• มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย (เพนซิลเวเนีย) – University of Pennsylvania (Pennsylvania)
• มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ (นิวยอร์ก) – Cornell University (New York)

ตั้งแต่ปี 1960 ทีมนักกีฬาของพวกเขาสร้างชื่อเสียง พลังเงินทุนและความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มาตรฐานการศึกษา และเกณฑ์การรับเข้าเรียนเริ่มมีความต้องการและเข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆ

และการผลิตนักเรียนที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการสูง มีศักดิ์ศรีทางสังคมและอนาคตที่มีแนวโน้มประสบความสำเร็จในการทำงานสูง มหาวิทยาลัยเหล่านี้ยังคงรักษาชื่อเสียงของพวกเขา โดยจะเห็นจากการจัดอันดับโลกในด้านการศึกษา สถาบัน วิจัยต่างๆ มักจะมีสถาบันเหล่านี้อยู่ในอันดับต้นๆ เสมอ

ในขณะที่ Stanford, MIT และ Caltech – แม้ไม่ได้อยู่ใน Ivy League แต่ก็มีคุณภาพ ชื่อเสียงระดับโลก ไม่แพ้กัน

การเตรียมตัวเบื้องต้นสมัครเข้าเรียน IVY League

การสมัครเข้าเรียนที่นี่ นอกจากโปรไฟล์ด้านการศึกษาจะต้องดีแล้ว บางทีมีเกณฑ์พิจารณาอื่นๆ ร่วมด้วย เช่นประสบการณ์ทางอาชีพ สถานะทางสังคม การเงิน เป้าหมายในอนาคตของผู้สมัคร มาตรฐานภาษา การทดสอบทางจิตวิทยาและความฉลาดทางอารมณ์ EQ และแน่นอนการเตรียมเอกสารเพื่อสมัครสถาบัน IVY League ไม่ได้เกิดในขึ้นในข้ามคืนดังเช่นสถาบันทั่วไป ต้องมีการวางแผน เตรียมการหลายเดือน หรือบางคนเป็นปี

หลายคนเลือกใช้มืออาชีพช่วยเตรียมเอกสาร โดยเฉพาะการเขียนเรียงความเรียนต่อ ซึ่งต้องใช้ศิลปะ ความคิด แรงบันดาลใจที่ซับซ้อนและเป็นศิลปะ มีความเป็นเอกลักษณ์ แสดงตัวตนผู้สมัครได้อย่างแท้จริงๆ การเขียนเรียงความเหล่านี้ไม่ใช่แค่ต้องมีความสามารถทางภาษาเท่านั้น แต่เทคนิค ความรู้ ความเข้าใจในหลักสูตร สถาบัน และต้องแสดงความสามารถ ความคิด ทัศนคติ หรือโชว์พาวเวอร์ให้มากสุดๆ

การเขียนแบบนี้ได้ ตั้งสั่งสม ฝึกและต้องศึกษาจากตำราหลายเล่ม

 

หลายครั้งเราจะเห็นความท้าทายตั้งแต่เริ่มต้น คือ หัวข้อเรียงความที่สถาบันกำหนดให้ผู้สมัครเขียนในการสมัครเรียน ซึ่งมักไม่ใช่หัวข้อแบบปกติทั่วไปสักเท่าไหร่ ต้องมีความแปลกแหวกแนวบ้าง เพื่อให้สามารถคัดแยกกลุ่มนักศึกษาที่มีแนวคิด ทัศนคติ หรือหัวกะทิที่มหาวิทยาลัยต้องการ ลองดู30 หัวข้อเรียงความเรียนต่อสุดแปลก แปลกกว่านี้มีอีกมั้ย เป็นตัวอย่างของความแปลกประหลาด แต่ในของจริงหัวข้อจะมีความหลากหลาย เปลี่ยนไปปีต่อปี และแต่ละสาขาจะได้หัวข้อไม่เหมือนกัน และหลายๆ ครั้งไม่ได้รับการเปิดเผย

ราคาค่าจ้างเขียน Admission Essay for IVY League

แบบการันตีผล ที่ต่างประเทศ ราคาเป็นเงินไทยไม่ได้อยู่แค่หลักพันบาท แต่เป็นหมื่น หลายหมื่น บางทีแตะแสนบาท แต่อย่าลืมว่าการพิจารณาของสถาบันไอวีลีก เขาไม่ได้ดูที่งานเขียนและเรียงความอย่างเดียว จดหมายแนะนำ LOR ประวัติส่วนตัว ผลการศึกษา คะแนนภาษา หรือการทดสอบอื่นๆ ที่กล่าวมา ล้วนมีผลมากเช่นกัน ดังนั้นหากผู้สมัครไม่ผ่านการคัดเลือก บางทีก็ไม่ใช่ความผิดผู้เขียนเรียงความ แต่โดยมารยาทแล้ว ผู้เขียนก็ควรจ่ายเงินคืน (Refund) ให้อย่างน้อย 50% หรือแล้วแต่การตกลง

ต้องให้แน่ใจว่าผู้เขียนมีประสบการณ์เขียนในสาขา หลักสูตร สถาบันนั้นๆ จริงๆ ควรขอให้นักเขียนแสดงโปรไฟล์ก่อนตัดสินใจลงมือจ้างงาน